ตัวอย่างโปรเจกต์จริงจากผู้เรียน Vibe Coding: ทำเว็บแอปจบใน 5 ชั่วโมง
- วิรุฬห์ เก่งธัญการ
- Vibe Coding , Technology , Guides
- 10 Oct, 2025
ตัวอย่างโปรเจกต์จริงจากผู้เรียน Vibe Coding: ทำเว็บแอปจบใน 5 ชั่วโมง
เรื่องราวความสำเร็จจากผู้เรียนจริงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเริ่มต้นเรียน Vibe Coding ด้วยแนวทางการพัฒนาที่ใช้ AI และเครื่องมือ no-code/low-code คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ดขั้นสูง
บทความนี้จะพาคุณไปดู ตัวอย่างโปรเจกต์จริง ที่ผู้เรียน Vibe Coding ทำสำเร็จภายใน 5 ชั่วโมง พร้อมเจาะลึกขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ และบทเรียนที่ได้รับ
ทำไมถึงเป็น 5 ชั่วโมง?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า Vibe Coding ไม่ใช่วิธีเขียนโค้ดแบบเดิม ๆ แต่เป็นแนวทางการพัฒนาที่:
- 🚀 ใช้ AI ช่วยสร้างโค้ดพื้นฐาน - ไม่ต้องเขียนทุกบรรทัดเอง
- 🎨 เน้น UI/UX และ Functionality - มากกว่าโครงสร้างโค้ด
- 🧩 ใช้ Templates และ Components - ไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
- ⚡ Deploy ได้เร็ว - ผ่านแพลตฟอร์มที่รองรับ
เวลา 5 ชั่วโมงนี้รวม:
- 1 ชม. - วางแผนและออกแบบ
- 3 ชม. - พัฒนาและปรับแต่ง
- 1 ชม. - ทดสอบและ deploy
หากต้องการเข้าใจ Vibe Coding มากขึ้น อ่านได้ที่ Vibe Coding คืออะไร
โปรเจกต์ที่ 1: เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอส่วนตัว
ข้อมูลโปรเจกต์
ผู้สร้าง: น้องมิ้นท์ - นักศึกษาปี 3 จากเชียงใหม่ ระยะเวลา: 4 ชั่วโมง 30 นาที เครื่องมือหลัก: v0.dev (by Vercel) + Cursor AI ผลลัพธ์: เว็บพอร์ตโฟลิโอที่สวยงาม ใช้งานได้จริง deploy บน Vercel
ความต้องการ
น้องมิ้นท์ต้องการเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอเพื่อ:
- แสดงผลงานที่เคยทำ (โครงการมหาวิทยาลัย)
- ประวัติส่วนตัวและประสบการณ์
- ข้อมูลติดต่อและ Social Links
- Blog สำหรับเขียนบทความเทคนิค
ขั้นตอนการทำ
ชั่วโมงที่ 1: วางแผนและออกแบบ
1. กำหนดโครงสร้างเว็บไซต์
หน้าแรก (Home)
├── About Me - ประวัติและข้อมูลส่วนตัว
├── Portfolio - แสดงผลงาน (Grid Gallery)
├── Skills - ทักษะและความสามารถ
├── Blog - บทความ (เชื่อม Medium หรือ Notion)
└── Contact - ข้อมูลติดต่อและฟอร์ม
2. ออกแบบ UI ด้วย Figma (คร่าว ๆ)
- Color Scheme: Minimal (ขาว, เทา, accent สีฟ้า)
- Typography: Modern Sans-serif
- Layout: Single Page Application (SPA)
3. เตรียมเนื้อหา
- เขียนข้อความแนะนำตัว
- รวบรวมรูปผลงาน
- เตรียม Resume/CV
ชั่วโมงที่ 2-3: พัฒนาด้วย v0.dev
1. ใช้ v0.dev สร้างโครงสร้างพื้นฐาน
พิมพ์ Prompt:
Create a modern portfolio website with:
- Hero section with name and tagline
- About section with photo and bio
- Portfolio grid showing 6 projects
- Skills section with icons
- Contact form with email integration
- Dark mode toggle
- Responsive design
Tech stack: Next.js, Tailwind CSS, TypeScript
ผลลัพธ์: v0.dev สร้างโค้ดเว็บไซต์ครบพร้อม components!
2. ปรับแต่งด้วย Cursor AI
น้องมิ้นท์ใช้ Cursor AI ช่วยปรับแต่ง:
- เปลี่ยนสีตาม brand identity
- เพิ่ม animations (fade in, hover effects)
- ปรับ layout ให้สวยงามขึ้น
- เพิ่ม SEO meta tags
3. เพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติม
- Dark Mode toggle
- Smooth Scrolling
- เชื่อมต่อฟอร์ม Contact กับ Formspree
- เพิ่ม Google Analytics
ชั่วโมงที่ 4-5: ทดสอบและ Deploy
1. ทดสอบ
- ทดสอบบนเบราว์เซอร์ต่าง ๆ (Chrome, Safari, Firefox)
- ทดสอบบนมือถือ (Responsive)
- ตรวจสอบลิงก์และฟอร์ม
2. Deploy บน Vercel
- เชื่อมต่อ GitHub Repository
- Deploy ด้วยคำสั่งเดียว
- ตั้งค่า Custom Domain (ถ้ามี)
3. แชร์และรับ Feedback
- แชร์กับเพื่อน ๆ ในคอร์ส
- ปรับแต่งตาม Feedback
ผลลัพธ์และบทเรียน
สิ่งที่ได้:
- ✅ เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอที่ professional
- ✅ เรียนรู้วิธีใช้ v0.dev และ Cursor AI
- ✅ เข้าใจ Next.js และ Tailwind CSS
- ✅ สามารถ deploy ขึ้น production ได้
บทเรียนสำคัญ:
“ตอนแรกคิดว่าต้องเขียนโค้ดทั้งหมดเอง แต่พอใช้ Vibe Coding ทำให้ผมโฟกัสที่การออกแบบและเนื้อหาแทน ไม่ต้องติดปัญหา syntax หรือ bug ยุ่งยาก ภายใน 5 ชั่วโมงก็มีเว็บที่ใช้งานได้จริง!” — น้องมิ้นท์
หากสนใจเรียน Vibe Coding แบบเต็มรูปแบบ ดูรายละเอียดได้ที่ คอร์ส Vibe Coding
โปรเจกต์ที่ 2: แอปจัดการสต็อกสินค้าขนาดเล็ก
ข้อมูลโปรเจกต์
ผู้สร้าง: คุณต้น - เจ้าของร้านกาแฟในเชียงใหม่ ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Bubble.io + ChatGPT ผลลัพธ์: แอปจัดการสต็อกสินค้าพร้อม Dashboard และ Alert System
ความต้องการ
คุณต้นต้องการระบบที่:
- บันทึกปริมาณสินค้าคงเหลือ
- แจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด
- ดู Dashboard ยอดใช้สินค้าแต่ละเดือน
- เพิ่ม/ลบสินค้าได้ง่าย
- เข้าถึงได้ทั้งคอมและมือถือ
ขั้นตอนการทำ
ชั่วโมงที่ 1: วางแผนและออกแบบ Database
1. ออกแบบโครงสร้างข้อมูล
Table: Products
- product_id (auto-increment)
- name (text)
- category (text)
- current_stock (number)
- min_stock (number) - ระดับแจ้งเตือน
- unit (text) - หน่วย (กก., ลิตร, ชิ้น)
- cost_per_unit (number)
- last_updated (date)
Table: Stock_History
- history_id (auto-increment)
- product_id (foreign key)
- quantity_change (number) - บวกถ้าเพิ่ม, ลบถ้าใช้
- date (datetime)
- note (text)
2. กำหนดฟีเจอร์
- หน้าแสดงรายการสินค้าทั้งหมด
- ฟอร์มเพิ่ม/แก้ไขสินค้า
- หน้า Dashboard แสดงกราฟ
- ระบบแจ้งเตือนผ่าน Email
- ระบบ Login (Admin only)
ชั่วโมงที่ 2-4: สร้างแอปด้วย Bubble.io
1. สร้าง Database และ Pages
- สร้าง Data Types ตามที่ออกแบบ
- สร้างหน้า: Dashboard, Products List, Add/Edit Product
2. ออกแบบ UI
- ใช้ Template “Inventory Management” จาก Bubble
- ปรับสี Theme ให้เข้ากับร้าน
- ใช้ Repeating Group แสดงรายการสินค้า
3. สร้าง Workflows
Workflow: เพิ่มสินค้า
เมื่อกดปุ่ม "Add Product":
1. Create a new Product
2. Set fields: name, category, current_stock, min_stock, unit
3. Navigate to Products List
4. Show alert "เพิ่มสินค้าสำเร็จ"
Workflow: ใช้สินค้า (ลดสต็อก)
เมื่อกดปุ่ม "Use":
1. Make changes to Product: current_stock - Input_quantity
2. Create Stock_History record
3. If current_stock < min_stock:
→ Send email alert to owner
4. Show alert "บันทึกสำเร็จ"
Workflow: แสดง Dashboard
Page load:
1. Do a search for Products: แสดงสินค้าที่ stock < min_stock (สีแดง)
2. Display chart: Stock usage by month
3. Show total value of inventory
4. ใช้ ChatGPT ช่วยเขียน Formulas
ตัวอย่าง Prompt:
I'm using Bubble.io. How do I calculate total inventory value?
Formula should be: Sum of (current_stock × cost_per_unit) for all products
ChatGPT ตอบ:
In Bubble, use this expression:
Products:each item's (current_stock * cost_per_unit):sum
ชั่วโมงที่ 5: ทดสอบและ Deploy
1. ทดสอบ
- เพิ่มสินค้าตัวอย่าง 10 รายการ
- ทดสอบการเพิ่ม/ลด stock
- ทดสอบระบบแจ้งเตือน (ตั้ง stock ให้ต่ำกว่า min)
- ทดสอบบนมือถือ
2. Deploy
- Upgrade to Bubble Basic Plan ($29/month)
- เชื่อม Custom Domain (ถ้ามี)
- Publish to Production
ผลลัพธ์และบทเรียน
สิ่งที่ได้:
- ✅ แอปจัดการสต็อกที่ใช้งานได้จริง
- ✅ ประหยัดเวลาในการจัดการสต็อก 80%
- ✅ ไม่มีสินค้าหมดแบบไม่รู้ตัวอีกต่อไป
- ✅ มีข้อมูลย้อนหลังเพื่อวิเคราะห์
ROI:
- ค่าสร้าง: 0 บาท (ทำเอง)
- ค่าใช้จ่าย: $29/เดือน (~1,000 บาท)
- ประหยัดเวลา: ~20 ชม./เดือน
- คุ้มค่ามาก!
บทเรียนสำคัญ:
“ผมไม่เคยเขียนโค้ดมาก่อนเลย แต่ Bubble ทำให้สร้างแอปได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด และเมื่อติดปัญหา ChatGPT ก็ช่วยได้เสมอ ตอนนี้ร้านผมใช้แอปนี้ทุกวัน!” — คุณต้น
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการใช้ AI ลองดู คอร์ส AI สำหรับธุรกิจ
โปรเจกต์ที่ 3: Landing Page สำหรับแคมเปญการตลาด
ข้อมูลโปรเจกต์
ผู้สร้าง: พี่เอ - Digital Marketer ระยะเวลา: 3 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Webflow + Relume AI + Zapier ผลลัพธ์: Landing Page สำหรับเปิดตัวคอร์สออนไลน์ พร้อมระบบรับสมัคร
ความต้องการ
Landing Page ที่:
- ดึงดูดสายตาและโน้มน้าวให้ซื้อคอร์ส
- มีฟอร์มลงทะเบียนและชำระเงิน
- เชื่อมต่อกับ Google Sheets และ Email Marketing
- รองรับ A/B Testing
- โหลดเร็ว SEO-friendly
ขั้นตอนการทำ
ชั่วโมงที่ 1: ออกแบบด้วย Relume AI
1. ใช้ Relume AI สร้างโครงสร้าง
Prompt:
Create a landing page for an online AI course targeting beginners.
Include:
- Hero section with compelling headline and CTA
- Benefits section (3 columns)
- Course curriculum
- Testimonials (3 reviews)
- Pricing table
- FAQ accordion
- Final CTA section
ผลลัพธ์: Relume สร้าง Wireframe พร้อม copywriting suggestions!
2. ปรับแต่ง Content
- เปลี่ยน Headline ให้เป็นภาษาไทย
- เพิ่มรูปภาพจาก Unsplash
- ปรับ CTA ให้ชัดเจน: “สมัครเรียนวันนี้ รับส่วนลด 30%“
ชั่วโมงที่ 2: สร้างใน Webflow
1. Import จาก Relume ไปยัง Webflow
- Export design จาก Relume
- Import ลง Webflow
2. ปรับแต่ง Design
- เลือก Color Scheme ให้เข้ากับ Brand
- ปรับ Typography
- เพิ่ม Animations (Scroll animations, Hover effects)
- ทำ Responsive Design สำหรับมือถือ
3. เพิ่ม Interactive Elements
- Countdown Timer สำหรับโปรโมชั่น
- Video Player สำหรับ Course Preview
- Accordion สำหรับ FAQ
ชั่วโมงที่ 3: Integration และ Deploy
1. สร้างฟอร์มและเชื่อมต่อ
- สร้างฟอร์มลงทะเบียนใน Webflow
- ใช้ Zapier เชื่อมต่อ:
- Webflow Form → Google Sheets (บันทึกข้อมูล)
- → Mailchimp (เพิ่มอีเมลเข้า list)
- → Slack (แจ้งเตือนทีมงาน)
2. เพิ่ม Payment Gateway
- ติดตั้ง Stripe payment button
- ทดสอบการชำระเงิน (Test mode)
3. SEO Optimization
- ตั้งค่า Meta Title & Description
- เพิ่ม Alt Text ให้รูปภาพ
- ทำ Schema Markup (Course schema)
- ตรวจสอบ Page Speed
4. Publish
- เชื่อม Custom Domain
- Publish to Production
- ตั้งค่า Google Analytics และ Facebook Pixel
ผลลัพธ์และบทเรียน
สิ่งที่ได้:
- ✅ Landing Page ที่สวยงามและ Convert ดี
- ✅ ระบบ Automation รับสมัครอัตโนมัติ
- ✅ ติดตามข้อมูลผ่าน Analytics
- ✅ Deploy ได้ภายใน 3 ชั่วโมง
ผลลัพธ์ทางธุรกิจ:
- Conversion Rate: 18% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย)
- Page Load Time: 1.2 วินาที
- มียอดสมัครเรียน 50 คน ในสัปดาห์แรก
บทเรียนสำคัญ:
“Relume AI ช่วยประหยัดเวลาออกแบบและเขียน copy มากมาย ทำให้ผมโฟกัสที่การทำให้ Landing Page Convert ได้ดี ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มจากศูนย์” — พี่เอ
โปรเจกต์ที่ 4: แอปจัดการงานภายในทีม (Team Task Manager)
ข้อมูลโปรเจกต์
ผู้สร้าง: ทีมสตาร์ทอัพ 4 คน ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Softr + Airtable + n8n ผลลัพธ์: Internal tool สำหรับจัดการ tasks และติดตาม progress
ความต้องการ
แอปที่:
- สร้างและมอบหมายงานได้
- ติดตามสถานะงาน (To-do, In Progress, Done)
- แสดง Dashboard ภาพรวมงานของทีม
- แจ้งเตือนเมื่อมีงานใหม่หรือ Deadline ใกล้
- มีระบบ User Management
ขั้นตอนการทำ
ชั่วโมงที่ 1: สร้าง Database ใน Airtable
โครงสร้างข้อมูล:
Base: Team Task Manager
Table 1: Tasks
- Task ID (auto-number)
- Task Name (single line text)
- Description (long text)
- Status (single select: To-do, In Progress, Done)
- Priority (single select: Low, Medium, High)
- Assigned To (link to Users table)
- Due Date (date)
- Created By (link to Users table)
- Created Date (created time)
Table 2: Users
- User ID (auto-number)
- Name (single line text)
- Email (email)
- Role (single select: Admin, Member)
- Photo (attachment)
Table 3: Comments
- Comment ID (auto-number)
- Task (link to Tasks)
- User (link to Users)
- Comment (long text)
- Timestamp (created time)
ชั่วโมงที่ 2-3: สร้าง Frontend ด้วย Softr
1. เลือก Template
- ใช้ template “Project Management” จาก Softr
- เชื่อมต่อกับ Airtable
2. สร้างหน้าต่าง ๆ
Dashboard Page:
- Total Tasks
- Tasks by Status (Pie Chart)
- Tasks by Priority
- Upcoming Deadlines
Tasks List Page:
- Kanban Board (To-do | In Progress | Done)
- List View (กรองตาม Priority, Assigned To)
- Search และ Filter
Task Detail Page:
- รายละเอียดงาน
- Comments section
- ปุ่ม Update Status
- ปุ่ม Edit/Delete (เฉพาะ Admin)
3. ตั้งค่า User Permissions
- Admin: สามารถเพิ่ม/แก้ไข/ลบได้ทั้งหมด
- Member: สามารถเพิ่มงาน และแก้ไขงานของตัวเองเท่านั้น
ชั่วโมงที่ 4: สร้าง Automation ด้วย n8n
Automation 1: แจ้งเตือนงานใหม่
Trigger: New record in Tasks table (Airtable)
↓
Action: Get user email from "Assigned To"
↓
Action: Send email notification
Subject: "งานใหม่ถูกมอบหมายให้คุณ: [Task Name]"
Body: รายละเอียดงานและลิงก์
Automation 2: แจ้งเตือน Deadline
Trigger: Schedule (ทุกวันเวลา 9:00)
↓
Filter: Tasks where Due Date = Today or Tomorrow
↓
Action: Send reminder email to assigned user
Automation 3: สรุปงานประจำสัปดาห์
Trigger: Schedule (ทุกวันศุกร์ 17:00)
↓
Action: Get all tasks completed this week
↓
Action: Generate report
↓
Action: Send email to all team members
ต้องการเรียนรู้ n8n automation? ดูได้ที่ สอน n8n Automation
ชั่วโมงที่ 5: ทดสอบและ Deploy
1. ทดสอบ
- เพิ่ม users ทั้งทีม
- สร้าง tasks ตัวอย่าง
- ทดสอบ Kanban board (drag & drop)
- ทดสอบระบบแจ้งเตือน
2. Deploy
- Publish Softr app
- เชื่อม Custom Domain (ถ้ามี)
- เปิดใช้งาน n8n workflows
ผลลัพธ์และบทเรียน
สิ่งที่ได้:
- ✅ แอปจัดการงานที่ตอบโจทย์ทีม
- ✅ ไม่ต้องพึ่ง tools พรีเมี่ยมแพง ๆ
- ✅ Customize ได้ตามต้องการ
- ✅ ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพทีม
ค่าใช้จ่าย:
- Airtable: ฟรี (Pro $20/user/month ถ้าต้องการฟีเจอร์เพิ่ม)
- Softr: $49/month
- n8n: ฟรี (self-host)
- รวม ~$50/month (ถูกกว่า Asana, Monday.com มาก!)
บทเรียนสำคัญ:
“เราลอง Trello, Asana แต่ไม่ตรงกับวิธีทำงานของทีม พอสร้างเองด้วย Vibe Coding ได้แอปที่ fit 100% และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย” — ทีมสตาร์ทอัพ
หากต้องการเปรียบเทียบเครื่องมือ อ่านได้ที่ n8n vs Vibe Coding
โปรเจกต์ที่ 5: ระบบจองคิวออนไลน์สำหรับคลินิก
ข้อมูลโปรเจกต์
ผู้สร้าง: คุณหมอแนน - ทันตแพทย์ที่เชียงใหม่ ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Glide + Google Sheets + LINE Notify ผลลัพธ์: แอปจองคิวบนมือถือสำหรับผู้ป่วย
ความต้องการ
ระบบที่:
- ผู้ป่วยจองคิวผ่านมือถือได้
- เลือกวันและเวลาที่ต้องการ
- แสดงคิวที่ว่างและเต็มแล้ว
- ส่ง Confirmation ผ่าน LINE
- คุณหมอเห็นคิวทั้งหมดได้จากมือถือ
ขั้นตอนการทำ
ชั่วโมงที่ 1: สร้าง Google Sheets Database
Sheet 1: Appointments
| Appointment_ID | Patient_Name | Phone | Date | Time | Status | Notes |
|----------------|--------------|-------|------|------|--------|-------|
| 1 | นายA | 08x | ... | 10:00| Confirmed | ... |
Sheet 2: Time_Slots
| Date | Time | Available | Booked_By |
|------------|-------|-----------|-----------|
| 2025-10-15 | 09:00 | Yes | |
| 2025-10-15 | 10:00 | No | นายA |
Sheet 3: Settings
| Setting_Name | Value |
|------------------|---------------|
| Working_Days | Mon-Sat |
| Working_Hours | 09:00-18:00 |
| Slot_Duration | 30 minutes |
| Max_Slots_Per_Day| 16 |
ชั่วโมงที่ 2-4: สร้างแอปด้วย Glide
1. Import Google Sheets ลง Glide
- Connect Sheets
- สร้าง app จาก template “Booking System”
2. สร้างหน้าจอ
หน้า Home:
- แสดงข้อมูลคลินิก
- ปุ่ม “จองคิว”
- ดูคิวของตัวเอง
หน้า Book Appointment:
- เลือกวันจากปฏิทิน
- แสดงช่วงเวลาว่าง
- กรอกข้อมูล: ชื่อ, เบอร์โทร, อาการ
- ปุ่ม “ยืนยันการจอง”
หน้า My Appointments (สำหรับผู้ป่วย):
- แสดงคิวที่จองไว้
- ปุ่ม “ยกเลิกคิว”
หน้า Admin (สำหรับคุณหมอ):
- ดูคิวทั้งหมดแยกตามวัน
- แก้ไข/ยกเลิกคิว
- เพิ่มหมายเหตุ
3. ตั้งค่า Logic และ Actions
Action: จองคิว
1. Check if time slot is available
If No → Show "ช่วงเวลานี้เต็มแล้ว"
2. Add row to Appointments sheet
3. Update Time_Slots: Set Available = No
4. Trigger Webhook to send LINE notification
5. Show confirmation "จองคิวสำเร็จ!"
Action: ยกเลิกคิว
1. Delete row from Appointments
2. Update Time_Slots: Set Available = Yes
3. Trigger webhook to notify clinic
ชั่วโมงที่ 5: Integration และ Deploy
1. ตั้งค่า LINE Notify
- สร้าง LINE Notify Token
- ใช้ Webhooks ส่งข้อความเมื่อมีการจอง/ยกเลิก
ข้อความที่ส่ง:
🔔 มีการจองคิวใหม่!
👤 ชื่อ: นายA
📱 เบอร์: 08x-xxx-xxxx
📅 วันที่: 15 ต.ค. 2025
🕐 เวลา: 10:00 น.
📝 อาการ: ปวดฟัน
รับทราบ: [ลิงก์]
2. ทดสอบ
- ทดสอบการจองคิว
- ทดสอบการแจ้งเตือน LINE
- ทดสอบการยกเลิก
- ทดสอบบนมือถือหลายรุ่น
3. Deploy
- Share Glide app link ให้ผู้ป่วย
- หรือสร้าง QR Code สำหรับสแกน
- ติด QR code ที่คลินิก
ผลลัพธ์และบทเรียน
สิ่งที่ได้:
- ✅ ระบบจองคิวที่ใช้งานง่าย
- ✅ ลดปัญหาคนจองคิวซ้ำ
- ✅ ผู้ป่วยไม่ต้องโทรมาจอง
- ✅ ลดภาระงานเจ้าหน้าที่
ผลกระทบทางธุรกิจ:
- ลดสายโทรศัพท์จอง 70%
- เพิ่มความพึงพอใจผู้ป่วย
- จัดการเวลาได้มีประสิทธิภาพขึ้น
บทเรียนสำคัญ:
“ตอนแรกคิดจะจ้างคนทำระบบ ราคาเสนอมา 50,000-100,000 บาท แต่พอเรียน Vibe Coding สามารถสร้างเองได้ใน 5 ชั่วโมง และยังปรับแต่งได้ตามใจอีกด้วย!” — คุณหมอแนน
บทเรียนรวมจากทุกโปรเจกต์
1. การเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสำคัญ
ทุกโปรเจกต์ที่สำเร็จมีสิ่งเหมือนกัน:
- วางแผนและออกแบบก่อนลงมือทำ
- เตรียมเนื้อหาและข้อมูลให้พร้อม
- เข้าใจความต้องการอย่างชัดเจน
Checklist ก่อนเริ่มโปรเจกต์:
- ☐ เขียน Requirements อย่างละเอียด
- ☐ ร่างโครงสร้างข้อมูล (Database schema)
- ☐ วาด Wireframe หรือ User Flow
- ☐ เตรียม Content (ข้อความ, รูปภาพ)
- ☐ เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม
2. เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงาน
| ประเภทโปรเจกต์ | เครื่องมือแนะนำ | เหตุผล |
|---|---|---|
| Landing Page | Webflow, Carrd | สวยงาม, SEO-friendly |
| Web App | Bubble, Softr | ครบจบในที่เดียว |
| Mobile-first | Glide, Adalo | Native app experience |
| E-commerce | Shopify, Webflow + Foxy | Payment gateway built-in |
| Internal Tools | Softr + Airtable | Flexible, cost-effective |
3. AI เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด
ใช้ AI ช่วยในทุกขั้นตอน:
- v0.dev / Relume AI - สร้างโครงสร้างและ UI
- ChatGPT / Claude - เขียนโค้ด, แก้ bug, อธิบาย concepts
- Cursor AI - แก้ไขโค้ดและปรับปรุง
- Midjourney / DALL-E - สร้างรูปภาพ
4. ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
ใช้ Templates และ Components:
- แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มี templates ให้เลือกมากมาย
- ปรับแต่งตาม brand และความต้องการ
- ประหยัดเวลาได้มหาศาล
5. Deploy เร็ว แล้วปรับปรุงภายหลัง
MVP (Minimum Viable Product) สำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ:
- สร้างเวอร์ชันพื้นฐานให้ใช้งานได้ก่อน
- รับ Feedback จากผู้ใช้จริง
- ค่อย ๆ ปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์
ตัวอย่าง MVP:
- เวอร์ชัน 1.0: ฟีเจอร์หลักเท่านั้น
- เวอร์ชัน 1.1: เพิ่ม notifications
- เวอร์ชัน 1.2: เพิ่ม analytics
- เวอร์ชัน 2.0: เพิ่มฟีเจอร์ advanced
เริ่มต้นโปรเจกต์ Vibe Coding ของคุณ
ขั้นตอนสำหรับผู้เริ่มต้น
สัปดาห์ที่ 1: เรียนรู้พื้นฐาน
- ศึกษา Vibe Coding คืออะไร
- เลือกแพลตฟอร์มที่สนใจ (Bubble, Webflow, Softr, etc.)
- ทำตาม tutorials พื้นฐาน
- สร้างโปรเจกต์ง่าย ๆ เช่น Landing Page
สัปดาห์ที่ 2: ลองทำโปรเจกต์เล็ก ๆ
- เลือกโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์ตัวเอง
- ตัวอย่าง: Portfolio, Todo App, Simple Blog
- ใช้เวลา 5-10 ชั่วโมง
- Deploy ขึ้น production
สัปดาห์ที่ 3-4: สร้างโปรเจกต์จริง
- เลือกปัญหาที่ต้องการแก้
- วางแผนอย่างละเอียด
- ทำทีละขั้นตอน
- ขอ Feedback และปรับปรุง
แหล่งเรียนรู้แนะนำ
คอร์สออนไลน์:
YouTube Channels:
- No Code Founders
- Makerpad
- Build with Bubble
Communities:
- Bubble Forum
- Webflow Forum
- Facebook Groups: No-code Thailand
หากต้องการเรียนแบบมีคำแนะนำ ดูได้ที่ สอน AI เชียงใหม่
สรุป: 5 ชั่วโมงเปลี่ยนไอเดียเป็นจริง
จากตัวอย่างโปรเจกต์ทั้ง 5 ชิ้นข้างต้น เราเห็นว่า:
✅ Vibe Coding ทำให้สามารถ:
- สร้างแอปได้เร็วมาก - ภายใน 3-5 ชั่วโมง
- ไม่ต้องเขียนโค้ดเยอะ - AI และ no-code tools ช่วยงาน
- Deploy ได้จริง - เป็น production-ready apps
- ปรับแต่งได้ - ตรงตามความต้องการ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย - ไม่ต้องจ้างนักพัฒนา
🎯 เหมาะกับ:
- ผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานเขียนโค้ด
- เจ้าของธุรกิจที่ต้องการ tools เฉพาะ
- Marketers ที่ต้องการสร้าง Landing Pages เร็ว ๆ
- นักพัฒนาที่ต้องการ prototype เร็ว
- Freelancers ที่ต้องการเพิ่มบริการ
💡 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ:
- เริ่มจากโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ทำสำเร็จได้แน่นอน
- ใช้ templates เป็นจุดเริ่มต้น
- ใช้ AI ช่วย ในทุกขั้นตอนที่ทำได้
- Deploy เร็ว แล้วปรับปรุงทีหลัง
- เรียนรู้จากผู้อื่น ในชุมชน
พร้อมเริ่มต้นสร้างโปรเจกต์ของคุณแล้วหรือยัง?
ไม่ต้องรอ ไม่ต้องกลัว แค่ 5 ชั่วโมง คุณอาจมีแอปที่เปลี่ยนวิธีทำงานหรือธุรกิจของคุณไปตลอดกาล!
ต้องการเรียน Vibe Coding?
AI Unlocked มีคอร์ส Vibe Coding ที่สอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสร้างโปรเจกต์จริงได้!
คอร์สแนะนำ:
Vibe Coding Fundamentals
- ✅ พื้นฐาน Vibe Coding และแนวคิด
- ✅ เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับโปรเจกต์
- ✅ ใช้ AI ช่วยพัฒนา
- ✅ Workshop สร้างโปรเจกต์จริง 3 ชิ้น
Vibe Coding Pro
- ✅ เทคนิคขั้นสูง
- ✅ Integration กับระบบอื่น ๆ
- ✅ Automation ด้วย n8n
- ✅ โปรเจกต์ Capstone ของตัวเอง
AI + Automation Master
- ✅ รวม Vibe Coding + n8n + AI
- ✅ สร้างระบบครบวงจร
- ✅ สอนแบบตัวต่อตัว
- ✅ รับประกันทำโปรเจกต์ได้จริง
เลือกรูปแบบที่เหมาะกับคุณ:
- 🎓 คอร์สออนไลน์ - เรียนผ่าน aiunlock.co
- 👨🏫 สอนส่วนตัวเชียงใหม่ - เรียนกับพี่หนึ่ง
- 💼 Corporate Workshop - อบรมทีมงาน
โปรโมชั่นพิเศษ!
🎁 ส่วนลด 30% สำหรับ 10 คนแรก 🎁 ฟรี! Template Pack มูลค่า 3,000 บาท 🎁 รับประกัน ทำโปรเจกต์ได้ภายใน 5 ชั่วโมงหรือคืนเงิน!
ติดต่อสอบถาม:
- อีเมล: aiunlockinnovations@gmail.com
- Facebook: AI Unlocked
- YouTube: AI Unlocked Channel
- แพลทฟอร์มคอร์ส: aiunlock.co
ปรึกษาฟรี! มาคุยกันว่าคุณอยากสร้างโปรเจกต์อะไร เราช่วยวางแผนให้!
#VibeCoding #NoCode #LowCode #AI #Development #5Hours #WebApp #Portfolio #Automation #Bubble #Webflow #Glide #Softr #โปรเจกต์ #เว็บไซต์ #แอพพลิเคชัน #AIUnlocked #เทคโนโลยี #สตาร์ทอัพ #ธุรกิจ
🚀 พร้อมเริ่มต้นเรียน AI แล้วหรือยัง?
เรียนคอร์ส AI, Vibe Coding และ n8n Automation แบบออนไลน์
เรียนได้ทันทีผ่านแพลทฟอร์มของเรา
✨ สอนภาษาไทย | ไม่ต้องมีพื้นฐาน | เรียนได้ทันที