Type something to search...
ตัวอย่างโปรเจกต์จริงจากผู้เรียน Vibe Coding: ทำเว็บแอปจบใน 5 ชั่วโมง

ตัวอย่างโปรเจกต์จริงจากผู้เรียน Vibe Coding: ทำเว็บแอปจบใน 5 ชั่วโมง

ตัวอย่างโปรเจกต์จริงจากผู้เรียน Vibe Coding: ทำเว็บแอปจบใน 5 ชั่วโมง

เรื่องราวความสำเร็จจากผู้เรียนจริงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเริ่มต้นเรียน Vibe Coding ด้วยแนวทางการพัฒนาที่ใช้ AI และเครื่องมือ no-code/low-code คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้จริงภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ดขั้นสูง

บทความนี้จะพาคุณไปดู ตัวอย่างโปรเจกต์จริง ที่ผู้เรียน Vibe Coding ทำสำเร็จภายใน 5 ชั่วโมง พร้อมเจาะลึกขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ และบทเรียนที่ได้รับ

ทำไมถึงเป็น 5 ชั่วโมง?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า Vibe Coding ไม่ใช่วิธีเขียนโค้ดแบบเดิม ๆ แต่เป็นแนวทางการพัฒนาที่:

  • 🚀 ใช้ AI ช่วยสร้างโค้ดพื้นฐาน - ไม่ต้องเขียนทุกบรรทัดเอง
  • 🎨 เน้น UI/UX และ Functionality - มากกว่าโครงสร้างโค้ด
  • 🧩 ใช้ Templates และ Components - ไม่ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
  • Deploy ได้เร็ว - ผ่านแพลตฟอร์มที่รองรับ

เวลา 5 ชั่วโมงนี้รวม:

  • 1 ชม. - วางแผนและออกแบบ
  • 3 ชม. - พัฒนาและปรับแต่ง
  • 1 ชม. - ทดสอบและ deploy

หากต้องการเข้าใจ Vibe Coding มากขึ้น อ่านได้ที่ Vibe Coding คืออะไร

โปรเจกต์ที่ 1: เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอส่วนตัว

ข้อมูลโปรเจกต์

ผู้สร้าง: น้องมิ้นท์ - นักศึกษาปี 3 จากเชียงใหม่ ระยะเวลา: 4 ชั่วโมง 30 นาที เครื่องมือหลัก: v0.dev (by Vercel) + Cursor AI ผลลัพธ์: เว็บพอร์ตโฟลิโอที่สวยงาม ใช้งานได้จริง deploy บน Vercel

ความต้องการ

น้องมิ้นท์ต้องการเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอเพื่อ:

  • แสดงผลงานที่เคยทำ (โครงการมหาวิทยาลัย)
  • ประวัติส่วนตัวและประสบการณ์
  • ข้อมูลติดต่อและ Social Links
  • Blog สำหรับเขียนบทความเทคนิค

ขั้นตอนการทำ

ชั่วโมงที่ 1: วางแผนและออกแบบ

1. กำหนดโครงสร้างเว็บไซต์

หน้าแรก (Home)
├── About Me - ประวัติและข้อมูลส่วนตัว
├── Portfolio - แสดงผลงาน (Grid Gallery)
├── Skills - ทักษะและความสามารถ
├── Blog - บทความ (เชื่อม Medium หรือ Notion)
└── Contact - ข้อมูลติดต่อและฟอร์ม

2. ออกแบบ UI ด้วย Figma (คร่าว ๆ)

  • Color Scheme: Minimal (ขาว, เทา, accent สีฟ้า)
  • Typography: Modern Sans-serif
  • Layout: Single Page Application (SPA)

3. เตรียมเนื้อหา

  • เขียนข้อความแนะนำตัว
  • รวบรวมรูปผลงาน
  • เตรียม Resume/CV

ชั่วโมงที่ 2-3: พัฒนาด้วย v0.dev

1. ใช้ v0.dev สร้างโครงสร้างพื้นฐาน

พิมพ์ Prompt:

Create a modern portfolio website with:
- Hero section with name and tagline
- About section with photo and bio
- Portfolio grid showing 6 projects
- Skills section with icons
- Contact form with email integration
- Dark mode toggle
- Responsive design

Tech stack: Next.js, Tailwind CSS, TypeScript

ผลลัพธ์: v0.dev สร้างโค้ดเว็บไซต์ครบพร้อม components!

2. ปรับแต่งด้วย Cursor AI

น้องมิ้นท์ใช้ Cursor AI ช่วยปรับแต่ง:

  • เปลี่ยนสีตาม brand identity
  • เพิ่ม animations (fade in, hover effects)
  • ปรับ layout ให้สวยงามขึ้น
  • เพิ่ม SEO meta tags

3. เพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติม

  • Dark Mode toggle
  • Smooth Scrolling
  • เชื่อมต่อฟอร์ม Contact กับ Formspree
  • เพิ่ม Google Analytics

ชั่วโมงที่ 4-5: ทดสอบและ Deploy

1. ทดสอบ

  • ทดสอบบนเบราว์เซอร์ต่าง ๆ (Chrome, Safari, Firefox)
  • ทดสอบบนมือถือ (Responsive)
  • ตรวจสอบลิงก์และฟอร์ม

2. Deploy บน Vercel

  • เชื่อมต่อ GitHub Repository
  • Deploy ด้วยคำสั่งเดียว
  • ตั้งค่า Custom Domain (ถ้ามี)

3. แชร์และรับ Feedback

  • แชร์กับเพื่อน ๆ ในคอร์ส
  • ปรับแต่งตาม Feedback

ผลลัพธ์และบทเรียน

สิ่งที่ได้:

  • ✅ เว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอที่ professional
  • ✅ เรียนรู้วิธีใช้ v0.dev และ Cursor AI
  • ✅ เข้าใจ Next.js และ Tailwind CSS
  • ✅ สามารถ deploy ขึ้น production ได้

บทเรียนสำคัญ:

“ตอนแรกคิดว่าต้องเขียนโค้ดทั้งหมดเอง แต่พอใช้ Vibe Coding ทำให้ผมโฟกัสที่การออกแบบและเนื้อหาแทน ไม่ต้องติดปัญหา syntax หรือ bug ยุ่งยาก ภายใน 5 ชั่วโมงก็มีเว็บที่ใช้งานได้จริง!” — น้องมิ้นท์

หากสนใจเรียน Vibe Coding แบบเต็มรูปแบบ ดูรายละเอียดได้ที่ คอร์ส Vibe Coding

โปรเจกต์ที่ 2: แอปจัดการสต็อกสินค้าขนาดเล็ก

ข้อมูลโปรเจกต์

ผู้สร้าง: คุณต้น - เจ้าของร้านกาแฟในเชียงใหม่ ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Bubble.io + ChatGPT ผลลัพธ์: แอปจัดการสต็อกสินค้าพร้อม Dashboard และ Alert System

ความต้องการ

คุณต้นต้องการระบบที่:

  • บันทึกปริมาณสินค้าคงเหลือ
  • แจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด
  • ดู Dashboard ยอดใช้สินค้าแต่ละเดือน
  • เพิ่ม/ลบสินค้าได้ง่าย
  • เข้าถึงได้ทั้งคอมและมือถือ

ขั้นตอนการทำ

ชั่วโมงที่ 1: วางแผนและออกแบบ Database

1. ออกแบบโครงสร้างข้อมูล

Table: Products
- product_id (auto-increment)
- name (text)
- category (text)
- current_stock (number)
- min_stock (number) - ระดับแจ้งเตือน
- unit (text) - หน่วย (กก., ลิตร, ชิ้น)
- cost_per_unit (number)
- last_updated (date)

Table: Stock_History
- history_id (auto-increment)
- product_id (foreign key)
- quantity_change (number) - บวกถ้าเพิ่ม, ลบถ้าใช้
- date (datetime)
- note (text)

2. กำหนดฟีเจอร์

  • หน้าแสดงรายการสินค้าทั้งหมด
  • ฟอร์มเพิ่ม/แก้ไขสินค้า
  • หน้า Dashboard แสดงกราฟ
  • ระบบแจ้งเตือนผ่าน Email
  • ระบบ Login (Admin only)

ชั่วโมงที่ 2-4: สร้างแอปด้วย Bubble.io

1. สร้าง Database และ Pages

  • สร้าง Data Types ตามที่ออกแบบ
  • สร้างหน้า: Dashboard, Products List, Add/Edit Product

2. ออกแบบ UI

  • ใช้ Template “Inventory Management” จาก Bubble
  • ปรับสี Theme ให้เข้ากับร้าน
  • ใช้ Repeating Group แสดงรายการสินค้า

3. สร้าง Workflows

Workflow: เพิ่มสินค้า

เมื่อกดปุ่ม "Add Product":
1. Create a new Product
2. Set fields: name, category, current_stock, min_stock, unit
3. Navigate to Products List
4. Show alert "เพิ่มสินค้าสำเร็จ"

Workflow: ใช้สินค้า (ลดสต็อก)

เมื่อกดปุ่ม "Use":
1. Make changes to Product: current_stock - Input_quantity
2. Create Stock_History record
3. If current_stock < min_stock:
   → Send email alert to owner
4. Show alert "บันทึกสำเร็จ"

Workflow: แสดง Dashboard

Page load:
1. Do a search for Products: แสดงสินค้าที่ stock < min_stock (สีแดง)
2. Display chart: Stock usage by month
3. Show total value of inventory

4. ใช้ ChatGPT ช่วยเขียน Formulas

ตัวอย่าง Prompt:

I'm using Bubble.io. How do I calculate total inventory value?
Formula should be: Sum of (current_stock × cost_per_unit) for all products

ChatGPT ตอบ:

In Bubble, use this expression:
Products:each item's (current_stock * cost_per_unit):sum

ชั่วโมงที่ 5: ทดสอบและ Deploy

1. ทดสอบ

  • เพิ่มสินค้าตัวอย่าง 10 รายการ
  • ทดสอบการเพิ่ม/ลด stock
  • ทดสอบระบบแจ้งเตือน (ตั้ง stock ให้ต่ำกว่า min)
  • ทดสอบบนมือถือ

2. Deploy

  • Upgrade to Bubble Basic Plan ($29/month)
  • เชื่อม Custom Domain (ถ้ามี)
  • Publish to Production

ผลลัพธ์และบทเรียน

สิ่งที่ได้:

  • ✅ แอปจัดการสต็อกที่ใช้งานได้จริง
  • ✅ ประหยัดเวลาในการจัดการสต็อก 80%
  • ✅ ไม่มีสินค้าหมดแบบไม่รู้ตัวอีกต่อไป
  • ✅ มีข้อมูลย้อนหลังเพื่อวิเคราะห์

ROI:

  • ค่าสร้าง: 0 บาท (ทำเอง)
  • ค่าใช้จ่าย: $29/เดือน (~1,000 บาท)
  • ประหยัดเวลา: ~20 ชม./เดือน
  • คุ้มค่ามาก!

บทเรียนสำคัญ:

“ผมไม่เคยเขียนโค้ดมาก่อนเลย แต่ Bubble ทำให้สร้างแอปได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด และเมื่อติดปัญหา ChatGPT ก็ช่วยได้เสมอ ตอนนี้ร้านผมใช้แอปนี้ทุกวัน!” — คุณต้น

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการใช้ AI ลองดู คอร์ส AI สำหรับธุรกิจ

โปรเจกต์ที่ 3: Landing Page สำหรับแคมเปญการตลาด

ข้อมูลโปรเจกต์

ผู้สร้าง: พี่เอ - Digital Marketer ระยะเวลา: 3 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Webflow + Relume AI + Zapier ผลลัพธ์: Landing Page สำหรับเปิดตัวคอร์สออนไลน์ พร้อมระบบรับสมัคร

ความต้องการ

Landing Page ที่:

  • ดึงดูดสายตาและโน้มน้าวให้ซื้อคอร์ส
  • มีฟอร์มลงทะเบียนและชำระเงิน
  • เชื่อมต่อกับ Google Sheets และ Email Marketing
  • รองรับ A/B Testing
  • โหลดเร็ว SEO-friendly

ขั้นตอนการทำ

ชั่วโมงที่ 1: ออกแบบด้วย Relume AI

1. ใช้ Relume AI สร้างโครงสร้าง

Prompt:

Create a landing page for an online AI course targeting beginners.
Include:
- Hero section with compelling headline and CTA
- Benefits section (3 columns)
- Course curriculum
- Testimonials (3 reviews)
- Pricing table
- FAQ accordion
- Final CTA section

ผลลัพธ์: Relume สร้าง Wireframe พร้อม copywriting suggestions!

2. ปรับแต่ง Content

  • เปลี่ยน Headline ให้เป็นภาษาไทย
  • เพิ่มรูปภาพจาก Unsplash
  • ปรับ CTA ให้ชัดเจน: “สมัครเรียนวันนี้ รับส่วนลด 30%“

ชั่วโมงที่ 2: สร้างใน Webflow

1. Import จาก Relume ไปยัง Webflow

  • Export design จาก Relume
  • Import ลง Webflow

2. ปรับแต่ง Design

  • เลือก Color Scheme ให้เข้ากับ Brand
  • ปรับ Typography
  • เพิ่ม Animations (Scroll animations, Hover effects)
  • ทำ Responsive Design สำหรับมือถือ

3. เพิ่ม Interactive Elements

  • Countdown Timer สำหรับโปรโมชั่น
  • Video Player สำหรับ Course Preview
  • Accordion สำหรับ FAQ

ชั่วโมงที่ 3: Integration และ Deploy

1. สร้างฟอร์มและเชื่อมต่อ

  • สร้างฟอร์มลงทะเบียนใน Webflow
  • ใช้ Zapier เชื่อมต่อ:
    • Webflow Form → Google Sheets (บันทึกข้อมูล)
    • → Mailchimp (เพิ่มอีเมลเข้า list)
    • → Slack (แจ้งเตือนทีมงาน)

2. เพิ่ม Payment Gateway

  • ติดตั้ง Stripe payment button
  • ทดสอบการชำระเงิน (Test mode)

3. SEO Optimization

  • ตั้งค่า Meta Title & Description
  • เพิ่ม Alt Text ให้รูปภาพ
  • ทำ Schema Markup (Course schema)
  • ตรวจสอบ Page Speed

4. Publish

  • เชื่อม Custom Domain
  • Publish to Production
  • ตั้งค่า Google Analytics และ Facebook Pixel

ผลลัพธ์และบทเรียน

สิ่งที่ได้:

  • ✅ Landing Page ที่สวยงามและ Convert ดี
  • ✅ ระบบ Automation รับสมัครอัตโนมัติ
  • ✅ ติดตามข้อมูลผ่าน Analytics
  • ✅ Deploy ได้ภายใน 3 ชั่วโมง

ผลลัพธ์ทางธุรกิจ:

  • Conversion Rate: 18% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย)
  • Page Load Time: 1.2 วินาที
  • มียอดสมัครเรียน 50 คน ในสัปดาห์แรก

บทเรียนสำคัญ:

“Relume AI ช่วยประหยัดเวลาออกแบบและเขียน copy มากมาย ทำให้ผมโฟกัสที่การทำให้ Landing Page Convert ได้ดี ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มจากศูนย์” — พี่เอ

โปรเจกต์ที่ 4: แอปจัดการงานภายในทีม (Team Task Manager)

ข้อมูลโปรเจกต์

ผู้สร้าง: ทีมสตาร์ทอัพ 4 คน ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Softr + Airtable + n8n ผลลัพธ์: Internal tool สำหรับจัดการ tasks และติดตาม progress

ความต้องการ

แอปที่:

  • สร้างและมอบหมายงานได้
  • ติดตามสถานะงาน (To-do, In Progress, Done)
  • แสดง Dashboard ภาพรวมงานของทีม
  • แจ้งเตือนเมื่อมีงานใหม่หรือ Deadline ใกล้
  • มีระบบ User Management

ขั้นตอนการทำ

ชั่วโมงที่ 1: สร้าง Database ใน Airtable

โครงสร้างข้อมูล:

Base: Team Task Manager

Table 1: Tasks

- Task ID (auto-number)
- Task Name (single line text)
- Description (long text)
- Status (single select: To-do, In Progress, Done)
- Priority (single select: Low, Medium, High)
- Assigned To (link to Users table)
- Due Date (date)
- Created By (link to Users table)
- Created Date (created time)

Table 2: Users

- User ID (auto-number)
- Name (single line text)
- Email (email)
- Role (single select: Admin, Member)
- Photo (attachment)

Table 3: Comments

- Comment ID (auto-number)
- Task (link to Tasks)
- User (link to Users)
- Comment (long text)
- Timestamp (created time)

ชั่วโมงที่ 2-3: สร้าง Frontend ด้วย Softr

1. เลือก Template

  • ใช้ template “Project Management” จาก Softr
  • เชื่อมต่อกับ Airtable

2. สร้างหน้าต่าง ๆ

Dashboard Page:

  • Total Tasks
  • Tasks by Status (Pie Chart)
  • Tasks by Priority
  • Upcoming Deadlines

Tasks List Page:

  • Kanban Board (To-do | In Progress | Done)
  • List View (กรองตาม Priority, Assigned To)
  • Search และ Filter

Task Detail Page:

  • รายละเอียดงาน
  • Comments section
  • ปุ่ม Update Status
  • ปุ่ม Edit/Delete (เฉพาะ Admin)

3. ตั้งค่า User Permissions

  • Admin: สามารถเพิ่ม/แก้ไข/ลบได้ทั้งหมด
  • Member: สามารถเพิ่มงาน และแก้ไขงานของตัวเองเท่านั้น

ชั่วโมงที่ 4: สร้าง Automation ด้วย n8n

Automation 1: แจ้งเตือนงานใหม่

Trigger: New record in Tasks table (Airtable)

Action: Get user email from "Assigned To"

Action: Send email notification
Subject: "งานใหม่ถูกมอบหมายให้คุณ: [Task Name]"
Body: รายละเอียดงานและลิงก์

Automation 2: แจ้งเตือน Deadline

Trigger: Schedule (ทุกวันเวลา 9:00)

Filter: Tasks where Due Date = Today or Tomorrow

Action: Send reminder email to assigned user

Automation 3: สรุปงานประจำสัปดาห์

Trigger: Schedule (ทุกวันศุกร์ 17:00)

Action: Get all tasks completed this week

Action: Generate report

Action: Send email to all team members

ต้องการเรียนรู้ n8n automation? ดูได้ที่ สอน n8n Automation

ชั่วโมงที่ 5: ทดสอบและ Deploy

1. ทดสอบ

  • เพิ่ม users ทั้งทีม
  • สร้าง tasks ตัวอย่าง
  • ทดสอบ Kanban board (drag & drop)
  • ทดสอบระบบแจ้งเตือน

2. Deploy

  • Publish Softr app
  • เชื่อม Custom Domain (ถ้ามี)
  • เปิดใช้งาน n8n workflows

ผลลัพธ์และบทเรียน

สิ่งที่ได้:

  • ✅ แอปจัดการงานที่ตอบโจทย์ทีม
  • ✅ ไม่ต้องพึ่ง tools พรีเมี่ยมแพง ๆ
  • ✅ Customize ได้ตามต้องการ
  • ✅ ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพทีม

ค่าใช้จ่าย:

  • Airtable: ฟรี (Pro $20/user/month ถ้าต้องการฟีเจอร์เพิ่ม)
  • Softr: $49/month
  • n8n: ฟรี (self-host)
  • รวม ~$50/month (ถูกกว่า Asana, Monday.com มาก!)

บทเรียนสำคัญ:

“เราลอง Trello, Asana แต่ไม่ตรงกับวิธีทำงานของทีม พอสร้างเองด้วย Vibe Coding ได้แอปที่ fit 100% และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย” — ทีมสตาร์ทอัพ

หากต้องการเปรียบเทียบเครื่องมือ อ่านได้ที่ n8n vs Vibe Coding

โปรเจกต์ที่ 5: ระบบจองคิวออนไลน์สำหรับคลินิก

ข้อมูลโปรเจกต์

ผู้สร้าง: คุณหมอแนน - ทันตแพทย์ที่เชียงใหม่ ระยะเวลา: 5 ชั่วโมง เครื่องมือหลัก: Glide + Google Sheets + LINE Notify ผลลัพธ์: แอปจองคิวบนมือถือสำหรับผู้ป่วย

ความต้องการ

ระบบที่:

  • ผู้ป่วยจองคิวผ่านมือถือได้
  • เลือกวันและเวลาที่ต้องการ
  • แสดงคิวที่ว่างและเต็มแล้ว
  • ส่ง Confirmation ผ่าน LINE
  • คุณหมอเห็นคิวทั้งหมดได้จากมือถือ

ขั้นตอนการทำ

ชั่วโมงที่ 1: สร้าง Google Sheets Database

Sheet 1: Appointments

| Appointment_ID | Patient_Name | Phone | Date | Time | Status | Notes |
|----------------|--------------|-------|------|------|--------|-------|
| 1              | นายA         | 08x   | ...  | 10:00| Confirmed | ... |

Sheet 2: Time_Slots

| Date       | Time  | Available | Booked_By |
|------------|-------|-----------|-----------|
| 2025-10-15 | 09:00 | Yes       |           |
| 2025-10-15 | 10:00 | No        | นายA      |

Sheet 3: Settings

| Setting_Name     | Value         |
|------------------|---------------|
| Working_Days     | Mon-Sat       |
| Working_Hours    | 09:00-18:00   |
| Slot_Duration    | 30 minutes    |
| Max_Slots_Per_Day| 16            |

ชั่วโมงที่ 2-4: สร้างแอปด้วย Glide

1. Import Google Sheets ลง Glide

  • Connect Sheets
  • สร้าง app จาก template “Booking System”

2. สร้างหน้าจอ

หน้า Home:

  • แสดงข้อมูลคลินิก
  • ปุ่ม “จองคิว”
  • ดูคิวของตัวเอง

หน้า Book Appointment:

  • เลือกวันจากปฏิทิน
  • แสดงช่วงเวลาว่าง
  • กรอกข้อมูล: ชื่อ, เบอร์โทร, อาการ
  • ปุ่ม “ยืนยันการจอง”

หน้า My Appointments (สำหรับผู้ป่วย):

  • แสดงคิวที่จองไว้
  • ปุ่ม “ยกเลิกคิว”

หน้า Admin (สำหรับคุณหมอ):

  • ดูคิวทั้งหมดแยกตามวัน
  • แก้ไข/ยกเลิกคิว
  • เพิ่มหมายเหตุ

3. ตั้งค่า Logic และ Actions

Action: จองคิว

1. Check if time slot is available
   If No → Show "ช่วงเวลานี้เต็มแล้ว"
2. Add row to Appointments sheet
3. Update Time_Slots: Set Available = No
4. Trigger Webhook to send LINE notification
5. Show confirmation "จองคิวสำเร็จ!"

Action: ยกเลิกคิว

1. Delete row from Appointments
2. Update Time_Slots: Set Available = Yes
3. Trigger webhook to notify clinic

ชั่วโมงที่ 5: Integration และ Deploy

1. ตั้งค่า LINE Notify

  • สร้าง LINE Notify Token
  • ใช้ Webhooks ส่งข้อความเมื่อมีการจอง/ยกเลิก

ข้อความที่ส่ง:

🔔 มีการจองคิวใหม่!

👤 ชื่อ: นายA
📱 เบอร์: 08x-xxx-xxxx
📅 วันที่: 15 ต.ค. 2025
🕐 เวลา: 10:00 น.
📝 อาการ: ปวดฟัน

รับทราบ: [ลิงก์]

2. ทดสอบ

  • ทดสอบการจองคิว
  • ทดสอบการแจ้งเตือน LINE
  • ทดสอบการยกเลิก
  • ทดสอบบนมือถือหลายรุ่น

3. Deploy

  • Share Glide app link ให้ผู้ป่วย
  • หรือสร้าง QR Code สำหรับสแกน
  • ติด QR code ที่คลินิก

ผลลัพธ์และบทเรียน

สิ่งที่ได้:

  • ✅ ระบบจองคิวที่ใช้งานง่าย
  • ✅ ลดปัญหาคนจองคิวซ้ำ
  • ✅ ผู้ป่วยไม่ต้องโทรมาจอง
  • ✅ ลดภาระงานเจ้าหน้าที่

ผลกระทบทางธุรกิจ:

  • ลดสายโทรศัพท์จอง 70%
  • เพิ่มความพึงพอใจผู้ป่วย
  • จัดการเวลาได้มีประสิทธิภาพขึ้น

บทเรียนสำคัญ:

“ตอนแรกคิดจะจ้างคนทำระบบ ราคาเสนอมา 50,000-100,000 บาท แต่พอเรียน Vibe Coding สามารถสร้างเองได้ใน 5 ชั่วโมง และยังปรับแต่งได้ตามใจอีกด้วย!” — คุณหมอแนน

บทเรียนรวมจากทุกโปรเจกต์

1. การเตรียมตัวที่ดีคือกุญแจสำคัญ

ทุกโปรเจกต์ที่สำเร็จมีสิ่งเหมือนกัน:

  • วางแผนและออกแบบก่อนลงมือทำ
  • เตรียมเนื้อหาและข้อมูลให้พร้อม
  • เข้าใจความต้องการอย่างชัดเจน

Checklist ก่อนเริ่มโปรเจกต์:

  • ☐ เขียน Requirements อย่างละเอียด
  • ☐ ร่างโครงสร้างข้อมูล (Database schema)
  • ☐ วาด Wireframe หรือ User Flow
  • ☐ เตรียม Content (ข้อความ, รูปภาพ)
  • ☐ เลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

2. เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับงาน

ประเภทโปรเจกต์เครื่องมือแนะนำเหตุผล
Landing PageWebflow, Carrdสวยงาม, SEO-friendly
Web AppBubble, Softrครบจบในที่เดียว
Mobile-firstGlide, AdaloNative app experience
E-commerceShopify, Webflow + FoxyPayment gateway built-in
Internal ToolsSoftr + AirtableFlexible, cost-effective

3. AI เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด

ใช้ AI ช่วยในทุกขั้นตอน:

  • v0.dev / Relume AI - สร้างโครงสร้างและ UI
  • ChatGPT / Claude - เขียนโค้ด, แก้ bug, อธิบาย concepts
  • Cursor AI - แก้ไขโค้ดและปรับปรุง
  • Midjourney / DALL-E - สร้างรูปภาพ

4. ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

ใช้ Templates และ Components:

  • แพลตฟอร์มส่วนใหญ่มี templates ให้เลือกมากมาย
  • ปรับแต่งตาม brand และความต้องการ
  • ประหยัดเวลาได้มหาศาล

5. Deploy เร็ว แล้วปรับปรุงภายหลัง

MVP (Minimum Viable Product) สำคัญกว่าความสมบูรณ์แบบ:

  • สร้างเวอร์ชันพื้นฐานให้ใช้งานได้ก่อน
  • รับ Feedback จากผู้ใช้จริง
  • ค่อย ๆ ปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์

ตัวอย่าง MVP:

  • เวอร์ชัน 1.0: ฟีเจอร์หลักเท่านั้น
  • เวอร์ชัน 1.1: เพิ่ม notifications
  • เวอร์ชัน 1.2: เพิ่ม analytics
  • เวอร์ชัน 2.0: เพิ่มฟีเจอร์ advanced

เริ่มต้นโปรเจกต์ Vibe Coding ของคุณ

ขั้นตอนสำหรับผู้เริ่มต้น

สัปดาห์ที่ 1: เรียนรู้พื้นฐาน

  • ศึกษา Vibe Coding คืออะไร
  • เลือกแพลตฟอร์มที่สนใจ (Bubble, Webflow, Softr, etc.)
  • ทำตาม tutorials พื้นฐาน
  • สร้างโปรเจกต์ง่าย ๆ เช่น Landing Page

สัปดาห์ที่ 2: ลองทำโปรเจกต์เล็ก ๆ

  • เลือกโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์ตัวเอง
  • ตัวอย่าง: Portfolio, Todo App, Simple Blog
  • ใช้เวลา 5-10 ชั่วโมง
  • Deploy ขึ้น production

สัปดาห์ที่ 3-4: สร้างโปรเจกต์จริง

  • เลือกปัญหาที่ต้องการแก้
  • วางแผนอย่างละเอียด
  • ทำทีละขั้นตอน
  • ขอ Feedback และปรับปรุง

แหล่งเรียนรู้แนะนำ

คอร์สออนไลน์:

YouTube Channels:

  • No Code Founders
  • Makerpad
  • Build with Bubble

Communities:

  • Bubble Forum
  • Webflow Forum
  • Facebook Groups: No-code Thailand

หากต้องการเรียนแบบมีคำแนะนำ ดูได้ที่ สอน AI เชียงใหม่

สรุป: 5 ชั่วโมงเปลี่ยนไอเดียเป็นจริง

จากตัวอย่างโปรเจกต์ทั้ง 5 ชิ้นข้างต้น เราเห็นว่า:

✅ Vibe Coding ทำให้สามารถ:

  • สร้างแอปได้เร็วมาก - ภายใน 3-5 ชั่วโมง
  • ไม่ต้องเขียนโค้ดเยอะ - AI และ no-code tools ช่วยงาน
  • Deploy ได้จริง - เป็น production-ready apps
  • ปรับแต่งได้ - ตรงตามความต้องการ
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย - ไม่ต้องจ้างนักพัฒนา

🎯 เหมาะกับ:

  • ผู้เริ่มต้นที่ไม่มีพื้นฐานเขียนโค้ด
  • เจ้าของธุรกิจที่ต้องการ tools เฉพาะ
  • Marketers ที่ต้องการสร้าง Landing Pages เร็ว ๆ
  • นักพัฒนาที่ต้องการ prototype เร็ว
  • Freelancers ที่ต้องการเพิ่มบริการ

💡 เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ:

  1. เริ่มจากโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ทำสำเร็จได้แน่นอน
  2. ใช้ templates เป็นจุดเริ่มต้น
  3. ใช้ AI ช่วย ในทุกขั้นตอนที่ทำได้
  4. Deploy เร็ว แล้วปรับปรุงทีหลัง
  5. เรียนรู้จากผู้อื่น ในชุมชน

พร้อมเริ่มต้นสร้างโปรเจกต์ของคุณแล้วหรือยัง?

ไม่ต้องรอ ไม่ต้องกลัว แค่ 5 ชั่วโมง คุณอาจมีแอปที่เปลี่ยนวิธีทำงานหรือธุรกิจของคุณไปตลอดกาล!


ต้องการเรียน Vibe Coding?

AI Unlocked มีคอร์ส Vibe Coding ที่สอนตั้งแต่เริ่มต้นจนสร้างโปรเจกต์จริงได้!

คอร์สแนะนำ:

Vibe Coding Fundamentals

  • ✅ พื้นฐาน Vibe Coding และแนวคิด
  • ✅ เลือกเครื่องมือให้เหมาะกับโปรเจกต์
  • ✅ ใช้ AI ช่วยพัฒนา
  • ✅ Workshop สร้างโปรเจกต์จริง 3 ชิ้น

Vibe Coding Pro

  • ✅ เทคนิคขั้นสูง
  • ✅ Integration กับระบบอื่น ๆ
  • ✅ Automation ด้วย n8n
  • ✅ โปรเจกต์ Capstone ของตัวเอง

AI + Automation Master

  • ✅ รวม Vibe Coding + n8n + AI
  • ✅ สร้างระบบครบวงจร
  • ✅ สอนแบบตัวต่อตัว
  • ✅ รับประกันทำโปรเจกต์ได้จริง

เลือกรูปแบบที่เหมาะกับคุณ:

  • 🎓 คอร์สออนไลน์ - เรียนผ่าน aiunlock.co
  • 👨‍🏫 สอนส่วนตัวเชียงใหม่ - เรียนกับพี่หนึ่ง
  • 💼 Corporate Workshop - อบรมทีมงาน

โปรโมชั่นพิเศษ!

🎁 ส่วนลด 30% สำหรับ 10 คนแรก 🎁 ฟรี! Template Pack มูลค่า 3,000 บาท 🎁 รับประกัน ทำโปรเจกต์ได้ภายใน 5 ชั่วโมงหรือคืนเงิน!

ติดต่อสอบถาม:

ปรึกษาฟรี! มาคุยกันว่าคุณอยากสร้างโปรเจกต์อะไร เราช่วยวางแผนให้!


#VibeCoding #NoCode #LowCode #AI #Development #5Hours #WebApp #Portfolio #Automation #Bubble #Webflow #Glide #Softr #โปรเจกต์ #เว็บไซต์ #แอพพลิเคชัน #AIUnlocked #เทคโนโลยี #สตาร์ทอัพ #ธุรกิจ

🚀 พร้อมเริ่มต้นเรียน AI แล้วหรือยัง?

เรียนคอร์ส AI, Vibe Coding และ n8n Automation แบบออนไลน์
เรียนได้ทันทีผ่านแพลทฟอร์มของเรา

✨ สอนภาษาไทย | ไม่ต้องมีพื้นฐาน | เรียนได้ทันที

บทความที่เกี่ยวข้อง

คอร์ส AI สำหรับผู้ไม่มีพื้นฐาน: เริ่มจากอะไรและเรียนอะไรบ้าง

คอร์ส AI สำหรับผู้ไม่มีพื้นฐาน: เริ่มจากอะไรและเรียนอะไรบ้าง

หลายคนอาจคิดว่าการเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จำเป็นต้องมีพื้นฐานคณิตศาสตร์ขั้นสูงหรือเขียนโปรแกรมเก่งๆ แต่ความจริงคือคุณสามารถเริ่มต้นได้แม้ไม่มีพื้นฐานเลย ที่ AI Unlocked เรามีนักเรียนหลายคนที่เ

read more
ใช้ AI เขียนโปรแกรม - เปลี่ยนวิธีการเขียนโค้ดยุกใหม่

ใช้ AI เขียนโปรแกรม - เปลี่ยนวิธีการเขียนโค้ดยุกใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในทุกด้านของชีวิต การเขียนโปรแกรมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้ AI เขียนโปรแกรม ที่จะช่วยให้คุณเขียนโค้ดได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น แล

read more
สรุปค่าใช้จ่ายคอร์ส AI แต่ละแบบ เลือกอย่างไรให้ตรงงบและเป้าหมาย

สรุปค่าใช้จ่ายคอร์ส AI แต่ละแบบ เลือกอย่างไรให้ตรงงบและเป้าหมาย

ก่อนตัดสินใจสมัครคอร์สปัญญาประดิษฐ์ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงคือค่าใช้จ่าย คอร์ส AI มีหลายรูปแบบตั้งแต่เรียนออนไลน์ฟรีจนถึงเวิร์กช็อปส่วนตัวที่มีราคาสูง การเข้าใจโครงสร้างค่าใช้จ่ายจะช่วยให้คุ

read more
คอร์ส AI ออนไลน์ vs ออฟไลน์ในเชียงใหม่: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

คอร์ส AI ออนไลน์ vs ออฟไลน์ในเชียงใหม่: เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย

การเลือกวิธีเรียน AI เป็นการตัดสินใจสำคัญที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้และความสำเร็จของคุณ ปัจจุบันมีรูปแบบการเรียนหลักๆ 2 แบบ คือ คอร์สออนไลน์ที่เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และ คอร์สออฟไลน์ที่

read more
เช็กลิสต์ก่อนลงเรียนคอร์ส AI: ต้องรู้อะไรบ้างถึงจะคุ้ม

เช็กลิสต์ก่อนลงเรียนคอร์ส AI: ต้องรู้อะไรบ้างถึงจะคุ้ม

เช็กลิสต์ก่อนลงเรียนคอร์ส AI: ต้องรู้อะไรบ้างถึงจะคุ้ม การลงทุนเวลาและเงินในการเรียนคอร์สปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อตลาดมีคอร์สให้เลือกมากมายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ การเล

read more
คอร์ส AI ออนไลน์ภาษาไทย เลือกแบบไหนคุ้มที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น

คอร์ส AI ออนไลน์ภาษาไทย เลือกแบบไหนคุ้มที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น

ปัจจุบันมีคอร์สออนไลน์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มากมายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ผู้เริ่มต้นจึงอาจสับสนว่าจะเลือกเรียนที่ไหนดี บทความนี้จะช่วยชี้แนวทางในการเลือกคอร์ส AI ภาษาไทยที่ให้ความรู้ครบถ้วนและคุ

read more
FAQ รวมคำถามยอดฮิต: สอน AI เชียงใหม่, คอร์ส AI, และ n8n ต้องรู้อะไรบ้าง

FAQ รวมคำถามยอดฮิต: สอน AI เชียงใหม่, คอร์ส AI, และ n8n ต้องรู้อะไรบ้าง

FAQ: คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับสอน AI เชียงใหม่ คอร์ส AI และ n8n หากคุณกำลังพิจารณาเรียนรู้เกี่ยวกับ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ ระบบอัตโนมัติ (Automation) คงมีหลายคำถามที่อยากได้คำตอบ บทความนี้รวบรว

read more
เรียน AI ที่เชียงใหม่ดีอย่างไร เทียบกับเรียนออนไลน์ล้วน

เรียน AI ที่เชียงใหม่ดีอย่างไร เทียบกับเรียนออนไลน์ล้วน

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์ สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือรูปแบบการเรียน ว่าควรจะเข้าคลาสสอนสดในสถานที่จริงหรือเรียนออนไลน์อย่างเดียว การเลือกวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูง

read more
n8n vs Vibe Coding: ใช้อะไรเมื่อไหร่ให้เวิร์กกับโปรเจกต์ของคุณ

n8n vs Vibe Coding: ใช้อะไรเมื่อไหร่ให้เวิร์กกับโปรเจกต์ของคุณ

n8n vs Vibe Coding: ใช้อะไรเมื่อไหร่ให้เวิร์กกับโปรเจกต์ของคุณ ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์และระบบอัตโนมัติสมัยใหม่ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับโปรเจกต์เป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของงาน **n

read more
รู้จัก n8n - เครื่องมือ Automation ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณ

รู้จัก n8n - เครื่องมือ Automation ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณ

ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานซ้ำ ๆ แบบเดิม ๆ กลายเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากร วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อัตโนมัติและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั

read more
Prompt Engineering เบื้องต้น: เขียนพรอมป์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์คุณภาพ

Prompt Engineering เบื้องต้น: เขียนพรอมป์ยังไงให้ได้ผลลัพธ์คุณภาพ

การสื่อสารกับโมเดลปัญญาประดิษฐ์อย่างมีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการเขียนพรอมป์ (Prompt) ที่ดี แนวคิดนี้เรียกว่า Prompt Engineering ซึ่งเป็นทักษะในการออกแบบคำสั่งหรือคำถามให้ชัดเจนและตรงประเด็น เพื

read more
เตรียมตัวก่อนเข้าคลาส AI ในเชียงใหม่: อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ควรมี

เตรียมตัวก่อนเข้าคลาส AI ในเชียงใหม่: อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ควรมี

การเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนคอร์ส AI เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่สะดุด และสามารถติดตามเนื้อหาได้ทัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่กำลังจะเข้าเรียนคอร์ส AI ในเชียงใหม่ ไม่ว่าจ

read more
สอน AI เชียงใหม่: ตารางเรียน ราคา และรูปแบบการสอน (Private/กลุ่มเล็ก)

สอน AI เชียงใหม่: ตารางเรียน ราคา และรูปแบบการสอน (Private/กลุ่มเล็ก)

หลายคนที่สนใจ**สอน AI เชียงใหม่**มักจะมีคำถามเกี่ยวกับตารางเรียน ราคา และรูปแบบการสอนที่เหมาะกับตัวเอง การเลือกรูปแบบที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ

read more
สอน AI เชียงใหม่ เรียนตัวต่อตัวเหมาะกับใคร? เริ่มยังไงดี

สอน AI เชียงใหม่ เรียนตัวต่อตัวเหมาะกับใคร? เริ่มยังไงดี

การเรียนรู้เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังกลายเป็นทักษะสำคัญสำหรับคนทุกสายงาน แต่หลายคนอาจรู้สึกกังวลว่าจะเริ่มต้นอย่างไร การเรียนแบบตัวต่อตัวกับผู้สอนมืออาชีพในเชียงใหม่เป็นทางเลือกที่ช่วยให้คุณก้า

read more
สอน n8n Automation ภาษาไทย สร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติภายใน 1 วัน

สอน n8n Automation ภาษาไทย สร้างเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติภายใน 1 วัน

n8n เป็นแพลตฟอร์มอัตโนมัติแบบโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อบริการต่าง ๆ และสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติได้ง่าย โดยไม่ต้องเขียนโค้ดยาว ๆ เครื่องมือนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วเพราะมีความยืดหยุ่

read more
Vibe Coding คืออะไร ต่างจากการเขียนโค้ดแบบเดิมยังไง (อัปเดต 2025)

Vibe Coding คืออะไร ต่างจากการเขียนโค้ดแบบเดิมยังไง (อัปเดต 2025)

Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาโปรแกรมที่ผสมผสานพลังของปัญญาประดิษฐ์และวิธีการเขียนโค้ดแบบ Low-code เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้รวดเร็วขึ้น แนวทางนี้เน้นการสื่อสารกับระบบด้วยภาษาธร

read more
Vibe Coding กับการทำ MVP เร็วขึ้น: เทคนิคและตัวอย่างการใช้งานจริง

Vibe Coding กับการทำ MVP เร็วขึ้น: เทคนิคและตัวอย่างการใช้งานจริง

การสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบขั้นต่ำ (Minimum Viable Product หรือ MVP) เป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพที่ต้องการทดสอบไอเดียและเก็บข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งานจริง ก่อนที่จะลงทุนเวลาและเงินทุนจำนวนม

read more
Vibe Coding สำหรับนักเรียน/นิสิต ทำโปรเจกต์จบภาคในเวลาจำกัด

Vibe Coding สำหรับนักเรียน/นิสิต ทำโปรเจกต์จบภาคในเวลาจำกัด

นักเรียนและนิสิตหลายคนต้องทำโปรเจกต์จบภาคหรือโปรเจกต์วิชาในช่วงเวลาที่จำกัด การเตรียมตัวล่วงหน้าและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการส่งงานทันเวลา Vibe Coding เป็นตัวช่วยที่ดีเพราะช่วยให

read more
Vibe Coding สำหรับผู้ประกอบการ: ทำ Dashboard ดูยอดขายแบบเรียลไทม์

Vibe Coding สำหรับผู้ประกอบการ: ทำ Dashboard ดูยอดขายแบบเรียลไทม์

Vibe Coding สำหรับผู้ประกอบการ: สร้าง Dashboard ยอดขายแบบเรียลไทม์ ผู้ประกอบการในยุคดิจิทัลต้องการข้อมูลยอดขายที่อัปเดตตลอดเวลาเพื่อตัดสินใจได้รวดเร็ว การมี Dashboard ที่แสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม

read more
รับสอน Vibe Coding แบบตัวต่อตัว - ปรับหลักสูตรตามความต้องการ 100%

รับสอน Vibe Coding แบบตัวต่อตัว - ปรับหลักสูตรตามความต้องการ 100%

🎯 สรุปสำคัญ (Quick Answer) รับสอน Vibe Coding แบบ Private คือการเรียนสร้างเว็บและแอพด้วย AI แบบตัวต่อตัว (1-on-1) ปรับหลักสูตรตามความต้องการของคุณ 100% เหมาะกับผู้ที่มีโปรเจกต์เฉพาะหรือต้องกา

read more
สอน Vibe Coding เชียงใหม่ - เรียนสร้างเว็บและแอพด้วย AI ไม่ต้องมีพื้นฐาน

สอน Vibe Coding เชียงใหม่ - เรียนสร้างเว็บและแอพด้วย AI ไม่ต้องมีพื้นฐาน

🎯 สรุปสำคัญ (Quick Answer) สอน Vibe Coding เชียงใหม่ คือการเรียนสร้างเว็บไซต์และแอพด้วย AI แบบตัวต่อตัว ไม่ต้องมีพื้นฐานการเขียนโค้ด เหมาะกับผู้เริ่มต้น ผู้ประกอบการ และ Freelancer ข้อมู

read more
ผู้เริ่มต้นเรียน AI ที่เชียงใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง? | คู่มือฉบับสมบูรณ์ 2025

ผู้เริ่มต้นเรียน AI ที่เชียงใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง? | คู่มือฉบับสมบูรณ์ 2025

ผู้เริ่มต้นเรียน AI ที่เชียงใหม่ต้องรู้อะไรบ้าง? คู่มือฉบับสมบูรณ์ คุณเป็นมือใหม่ที่อยากเรียน AI ที่เชียงใหม่แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? ไม่ต้องกังวล! บทความนี้จะเป็นคู่มือสมบูรณ์ที่รวมทุกอย่

read more
สอน Vibe Code ใช้ AI เขียนโปรแกรม: สร้างเว็บและแอพแบบมืออาชีพ

สอน Vibe Code ใช้ AI เขียนโปรแกรม: สร้างเว็บและแอพแบบมืออาชีพ

สอน Vibe Code: ใช้ AI เขียนโปรแกรมแบบมืออาชีพ Vibe Coding คือแนวทางการเขียนโปรแกรมสมัยใหม่ที่ใช้ AI เป็นผู้ช่วยหลัก ในการพัฒนาเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน ทำให้แม้คนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดก็ส

read more
เครื่องมือ AI Review โค้ด: เพิ่มคุณภาพโค้ดอัตโนมัติ

เครื่องมือ AI Review โค้ด: เพิ่มคุณภาพโค้ดอัตโนมัติ

เครื่องมือ AI Review โค้ด: เพิ่มคุณภาพโค้ดอัตโนมัติ Code Review เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพโค้ด แต่ใช้เวลามาก ด้วย AI ตอนนี้คุณสามารถให้ AI review โค้ดได้อัตโนมัติ รวดเร็ว และแม่นย

read more
สร้างแอพมือถือด้วย AI: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

สร้างแอพมือถือด้วย AI: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น

สร้างแอพมือถือด้วย AI: คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น การสร้าง แอพมือถือ ที่เคยต้องใช้เวลาหลายเดือนและทักษะสูง ตอนนี้ด้วย AI คุณสามารถสร้างได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ต้องเป็น developer มืออาชีพ บ

read more
Bolt.new: สร้างแอพเว็บด้วย AI ไม่ต้องเขียนโค้ด

Bolt.new: สร้างแอพเว็บด้วย AI ไม่ต้องเขียนโค้ด

Bolt.new: สร้างแอพเว็บด้วย AI ไม่ต้องเขียนโค้ด Bolt.new (by StackBlitz) คือเครื่องมือสร้างแอพเว็บเต็มรูปแบบด้วย AI ที่ทรงพลังที่สุดตอนนี้ พิมพ์อธิบายว่าต้องการแอพอะไร Bolt สร้างให้ครบทั้ง front

read more
สร้างเว็บ E-commerce ด้วย Vibe Coding ใน 1 สัปดาห์

สร้างเว็บ E-commerce ด้วย Vibe Coding ใน 1 สัปดาห์

สร้างเว็บ E-commerce ด้วย Vibe Coding ใน 1 สัปดาห์ สร้าง เว็บขายของออนไลน์สมบูรณ์ด้วย Vibe Coding ไม่ต้องเป็น developer มืออาชีพ บทความนี้จะสอนทีละขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึง deploy จริง ใน 7 ว

read more
Cursor AI: คู่มือใช้งาน AI Code Editor ที่ดีที่สุด 2025

Cursor AI: คู่มือใช้งาน AI Code Editor ที่ดีที่สุด 2025

Cursor AI: คู่มือใช้งาน AI Code Editor ที่ดีที่สุด 2025 Cursor AI คือ code editor ที่มี AI ช่วยเขียนโค้ดแบบเต็มรูปแบบ ทำให้การ Vibe Coding ง่ายและรวดเร็วมาก บทความนี้จะสอนวิธีใช้ Cursor AI ตั้ง

read more
ดีบั๊กโค้ดด้วย AI: ประหยัดเวลาได้ 80%

ดีบั๊กโค้ดด้วย AI: ประหยัดเวลาได้ 80%

ดีบั๊กโค้ดด้วย AI: ประหยัดเวลาได้ 80% การดีบั๊ก (Debugging) เป็นส่วนที่ใช้เวลามากที่สุดในการเขียนโปรแกรม บางครั้งใช้เวลาหลายชั่วโมงถึงหลายวันแค่หา bug เดียว แต่ด้วย AI คุณสามารถหา bug และแก

read more
GitHub Copilot: เทคนิคการใช้งานให้คุ้มค่า

GitHub Copilot: เทคนิคการใช้งานให้คุ้มค่า

GitHub Copilot: เทคนิคการใช้งานให้คุ้มค่า GitHub Copilot เป็น AI coding assistant ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่หลายคนใช้ไม่เต็มศักยภาพ บทความนี้จะแนะนำเทคนิคการใช้งาน Copilot ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

read more
Replit AI: พัฒนาโปรเจกต์บน Cloud ด้วย AI

Replit AI: พัฒนาโปรเจกต์บน Cloud ด้วย AI

Replit AI: พัฒนาโปรเจกต์บน Cloud ด้วย AI Replit คือ cloud IDE ที่มี AI ช่วยเขียนโค้ด ทำให้คุณสามารถพัฒนาโปรแกรมได้ทุกที่ผ่าน browser โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเลย และด้วย Replit AI คุณจะเขียนโค้ดได้

read more
V0 by Vercel: สร้างเว็บไซต์ด้วย AI แบบ Real-time

V0 by Vercel: สร้างเว็บไซต์ด้วย AI แบบ Real-time

V0 by Vercel: สร้างเว็บไซต์ด้วย AI แบบ Real-time V0.dev คือเครื่องมือของ Vercel ที่ใช้ AI สร้าง UI components แบบ real-time คุณพิมพ์อธิบายว่าต้องการอะไร V0 สร้างให้ทันทีพร้อม code ที่ใช้ได้จริง

read more
Vibe Coding vs การเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม: ต่างกันอย่างไร?

Vibe Coding vs การเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม: ต่างกันอย่างไร?

Vibe Coding vs การเขียนโค้ดแบบดั้งเดิม: ต่างกันอย่างไร? Vibe Coding คือวิธีการเขียนโปรแกรมยุคใหม่ที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยหลัก ทำให้คนที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดก็สร้างเว็บและแอพได้ บทความนี้จะเปรี

read more
คลังพรอมต์ AI: 20+ คำสั่งสำหรับงานโค้ดดิ้งที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

คลังพรอมต์ AI: 20+ คำสั่งสำหรับงานโค้ดดิ้งที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น

การใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด (Vibe Coding) ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น หัวใจสำคัญอยู่ที่การเขียน "พรอมต์" หรือคำสั่งที่ชัดเจนและตรงประเด็น ยิ่งคุณสั่งงานได้ดีเท่าไหร่ AI ก็จะยิ่งให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและนำไป

read more
เทคนิค Vibe Coding ขั้นสูง: ยกระดับการพัฒนาแอปด้วย AI สู่ระดับมืออาชีพ

เทคนิค Vibe Coding ขั้นสูง: ยกระดับการพัฒนาแอปด้วย AI สู่ระดับมืออาชีพ

เมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับการใช้ AI ช่วยเขียนโค้ดในระดับพื้นฐานแล้ว และสามารถสร้างโปรเจกต์ง่ายๆ ได้ ขั้นต่อไปคือการก้าวข้ามไปสู่การเป็น "Power User" ที่สามารถควบคุม AI ให้สร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อน, มีปร

read more
Vibe Coding คืออะไร? เปลี่ยนไอเดียให้เป็นโค้ดด้วย AI

Vibe Coding คืออะไร? เปลี่ยนไอเดียให้เป็นโค้ดด้วย AI

เคยไหมที่อยากสร้างแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ แต่ต้องติดขัดเพราะการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน? Vibe Coding คือแนวทางใหม่ที่จะมาเปลี่ยนเรื่องนี้ไปตลอดกาล มันคือการเขียนโค้ดโดยมี AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ เปรียบเ

read more
รับสอน AI เชียงใหม่ ครบครัน - Vibe Coding, n8n, Prompt Engineering ตัวต่อตัว

รับสอน AI เชียงใหม่ ครบครัน - Vibe Coding, n8n, Prompt Engineering ตัวต่อตัว

🎯 สรุปสำคัญ (Quick Answer) รับสอน AI เชียงใหม่ ครบครัน - เรียน AI แบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญ ครอบคลุม Vibe Coding, n8n Automation, Prompt Engineering และ AI Tools สอนภาษาไทย เหมาะกับทุกระดับ

read more
เรียน AI เชียงใหม่ที่ไหนดี? | คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเปรียบเทียบสถาบัน

เรียน AI เชียงใหม่ที่ไหนดี? | คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเปรียบเทียบสถาบัน

เรียน AI เชียงใหม่ที่ไหนดี? คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ คุณกำลังมองหาสถานที่เรียน AI ที่เชียงใหม่หรืออยู่ใช่ไหม? ด้วยความต้องการเรียน AI ที่เพิ่มสูงขึ้นในเชียงใหม่ หลายคนสับสนว่าควรเลือกเรียนที่ไหน คอ

read more